Friday, September 20, 2013

ปัจฉิมกาลทุนนิยม

ทุนนิยมทำลายตัวเองได้เร็วกว่าคอมมิวนิสต์เสียอีก ขำขื่นว่ะ
เมื่อหลายปีก่อนผมเคยคิดเหมือนกันครับว่า ธุรกิจโตแล้วไปไหน? ขยายกิจการ เติบโต แตกบริษัท เข้าตลาดหุ้น สู่ตลาดโลก แล้วไปไหนต่อ ออกไปทำธุรกิจนอกโลกงั้นรึ?

จวบจนกระทั่งเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2551-52 รวมถึงวิกฤตการเงินเรื้อรังหลังจากนั้นเป็นต้นมา ซึ่งได้เผยให้เราเห็นความอัปลักษณ์ของระบบทุนที่กัดกินตัวเอง จนก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในเชิงเศรษฐกิจ ทำให้ช่องว่างระหว่างรายได้ของชนชั้นบนกับชนชั้นล่างห่างกันอย่างมาก คนรวยก็รวยยิ่งขึ้น รวยจนไม่รู้จะรวยกันยังไง ขณะที่คนจนก็หมดสิทธิ์ที่จะลืมตาอ้าปากได้อีกเลยไม่ว่าจะชาตินี้ชาติหน้า

แม้แต่คนชั้นกลางเองก็เริ่มอยู่ยากมากขึ้น เพราะถูกระบบกดขี่ตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียนจนกระทั่งจบมาเป็นทาสแรงงาน ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจมากมายที่พาเหรดกันออกมาแสดงตัวให้เราเห็นแล้วว่า ระบบทุนนิยมที่เคยมีมานั้น มันไปต่อไม่ได้เสียแล้ว ถึงจุดจบเสียแล้ว และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เห็นความจริงของภาพลวงแห่งความมั่งคั่งทั้งหลาย ซึ่งถูกนำเสนอผ่านสื่อกระแสหลัก ในการกล่อมให้ผู้คนได้เคลิ้มและวิ่งไขว่คว้าหาความมั่งคั่งปั่นระบบเศรษฐกิจให้คนกลุ่มเล็กๆที่เรียกว่านายทุน