ขอขึ้นบทความนี้ต้อนรับข้อเสนอความตกลงการเปิดเสรีการค้าที่รัฐบาลไทยพยายามจะทำกับอเมริกาหน่อย เพราะในข้อตกลงทางการค้าที่ว่านั้นมีเรื่อง การปล่อยให้ราคายาเป็นไปอย่างเสรีไม่มีการควบคุมด้วย จะมีเบื้องลึกเบื้องหลังสามานย์ขนาดไหน อย่างไร ต้องลองอ่านเนื้อหาย่อๆข้างล่างนี้ก็แล้วกัน
และวันนี้ผมไม่ต้องเขียนเองครับ เพราะเมื่อหลายปีก่อนมีคนแปลหนังสือที่เปิดโปงเล่ห์กลของบริษัทยาข้ามชาติเอาไว้อย่างละเอียดถึงสองเล่ม แถมมีให้ดาวน์โหลดฟรีๆเพื่อเป็นวิทยาทานด้วย ผมเลยเอามาใส่เอาไว้ในนี้รวมมิตรแฉเอาไว้ในที่เดียว
เล่มแรกมีชื่อว่า "กระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ" (The Truth About the Drub Companies: How they deceive us and what to do about it) เป็นหนังสือในเครือหมอชาวบ้านที่ดีมากๆ เป็นหนังสือที่ออกมาหลายปีแล้ว จะหาซื้อตามแผงจะหายากหน่อย แนะนำให้สั่งซื้อจากในเว็บไซต์หมอชาวบ้าน ผมเองซื้อแบบลดราคาเหลือเล่มละร้อยจากงานสัปดาห์หนังสือเมื่อ ตุลาคม 55 ที่ผ่านมา ซึ่งเนื้อหาข้างในหนังสือก็เป็นไปเพื่อการกระชากหน้ากากจริงๆเหมือนชื่อหนังสือ เพราะแฉหมดทุกเม็ด ตั้งแต่เม็ดเงินที่ทำวิจัยซึ่งมักจะอ้างเพื่อไม่ให้ควบคุมราคายา ข้ออ้างสารพัดว่าทำไมราคายาถึงได้แพง ไปจนถึงการจ่ายเงินให้แพทย์ในการทำยอดสั่งยาของบริษัทตน พูดง่ายๆคือ ทุกกระบวนการตั้งแต่การออกกฏหมายจนถึงหมอที่สั่งยาให้เรา ล้วนทำงานให้บริษัทยาทั้งนั้น เรียกว่าขูดรีดจากผู้ป่วยกันทุกเม็ด ทุกขั้นตอนจริงๆ ผมจะไม่พูดมากก็แล้วกันเดี๋ยวไม่สาแก่ใจ เอาเป็นว่า คุณสามารถเข้าไปโหลดหนังสือฉบับสแกนได้ที่
หรือจะเข้าไปอ่านe-book ฟรีๆได้ที่ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
ส่วนเล่มสองนั้นมีชื่อว่า "อุบายขายโรค:กระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ(ภาคสอง) ซึ่งแปลมาจากหนังสือที่ชื่อว่า "Selling Sickness: How the World's Biggest Pharmaceutical Companies Are Turning Us All into Patients"
เรื่องราวในเล่มสองนี้ว่าด้วยวิธีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่พยายามจะขายอาการเสื่อมและการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามวัยให้กลายเป็นโรคใหม่ๆขึ้นมา เพื่อที่บริษัทยายักษ์ใหญ่ทั้งหลายจะได้ขยายฐานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในการที่จะรองรับยาใหม่ๆที่ผลิดออกมา ทั้งๆที่มันไม่จำเป็นต่อการรักษาจริงๆ งานนี้จะได้รู้กันล่ะว่าธุรกิจยากับธุรกิจการแพทย์เขารวมหัวกันทำให้เรารู้สึกว่าเป็นคนไข้ตลอดเวลาอยู่ตลอดเวลาได้ยังไง
ใครกินยาเยอะๆ หรือใครที่เอะอะก็กินยา ลองอ่านสองเล่มนี้ดูนะครับจะได้หูตาสว่างกันเสียที
แล้วก็ต้องย้ำนิดหนี่งว่า ทุกวันนี้ประเทศไทยเรามีองค์ความรู้พื้นบ้านที่จะช่วยให้เรารักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรงและช่วยให้เรารักษาโรคต่างๆได้โดยที่ไม่ต้องใช้เงินมากมายเกินความจำเป็นอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในวงการแพทย์แผนปัจจุบันเลย
ฉบับ e-book ที่มูลนิธิหมอชาวบ้าน
อยากให้คนไทยตาสว่าง เลิกบ้าเงิน กับข้าวของไร้สาระ หันมาสนใจกับสิ่งที่เรียกว่า ชีวิต ดั้งเดิม
ReplyDeleteคงต้องรอให้ระบบล้มเองล่ะครับ หรือไม่อีกทีก็ รอให้คนกลุ่มหนึ่งออกไปอยู่แบบพอเพียงเป็นแบบอย่าง จริงๆทุกวันนี้ก็มีแบบอย่างครับ เพียงแต่เป็นแบบอย่างที่คนเมืองไม่สามารถเชื่อมโยงถึงได้ แต่แบบอย่างนี้จะเป็นต้นแบบได้ก็ต้องรอให้ระบบทุนบีบคั้นคนจนเกิดปัญญากันก่อนล่ะครับ ถึงจะยอมรับความจริงกัน เพราะถ้ายังดิ้นรนกันได้อยู่ มันก็จะไม่ยอมเลิกกันสักทีครับ
Deleteคงจะเป็นแบบ ไม่เห้นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาละครับ คนพวกนี้
Deleteถูกต้องแล้วครับ เพราะคนส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงดูมาแบบไม่มีภูมิคุ้มกัน พึ่งตนเองไม่ได้ เหมือนไก่ในฟาร์ม จะให้เขาเริ่มพึ่งพาตัวเองทั้งๆที่ระบบมันอยู่ ก็คงจะยากครับ ตอนนี้ทำได้ก็แค่เริ่มเปิดเผยมายาของทุนนิยมออกมาเรื่อยๆ จะได้แจ้งในปัญญากันเสียทีว่าเราโดนหลอกกันทุกเรื่องเลย
Deleteเค้าถูกสอนมาทั้งชีวิตให้อยู่แบบนี้ ถ้าไม่เดือดร้อนหรือเห็นทางเลือกที่คิดว่าดีกว่า จริงแท้กว่าก็ยากที่จะเปลี่ยนครับ เหมือนการเสพติควุฒิการศึกษาในตอนนี้
Deleteใช่ครับ เหมือนเราอยู่ใน The Matrix น่ะ มันนึกอะไรไม่ออกหรอก แต่ตามอ่านไปเรื่อยๆ ผมจะเปิดเผยทางรอดทางเลือกทางแก้ให้หมด และจะเปิดเผยมายาที่ปิดบังความจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะที่ผ่านมาเราถูกปิดหูปิดตา และถูกทำให้สบายจนเคยตัว จนไม่กล้าที่จะใช้ชีวิตแบบทางเลือกครับ
Delete