Tuesday, June 26, 2012

อิสรภาพทางการเงิน(ที่แท้จริง)


อิสรภาพทางการเงิน นั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายใฝ่ฝันจะให้ได้มาเพื่อเป็นหลักประกันของชีวิต และเป็นจุดที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหลายก็เอามาโฆษณาด้วยภาพของผู้คนที่ใช้ชีวิตแบบอิสระเสรี อย่างสะดวกสบายราวกับเป็นอิสระจริงๆ

ตื่นได้แล้วครับ ทั้งหมดเป็นเพียงภาพมายาล้วนๆ คนที่สร้างภาพนี้ให้เราดู เขาทำไปเพราะต้องการเงินนั่นแหละ พวกเขาเองก็ยังเป็นทาสเงินอยู่ จะมาเสนออิสรภาพทางการเงินได้ยังไงเล่า

แล้วคุณจะมีอิสรภาพทางการเงินได้ยังไง ในเมื่อทุกย่างก้าวของคุณต้องใช้เงิน เงิน เงิน และ เงิน พอหยุดหาเงิน เงินที่มีอยู่ก็จะค่อยๆหมด หรือถ้าคุณเกษียณแล้ว ลูกหลานคุณก็ต้องออกไปหาเงินมาเลี้ยงดูคุณจนกว่าจะลมหายใจสุดท้าย หรือแม้แต่คนที่รวยมากๆและดูเหมือนมีอิสรภาพทางการเงิน ก็ยังต้องวิ่งหาเงินมาเติมเรื่อยๆไม่ให้หมด แล้วอย่างนี้จะมีใครไหมที่มีอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง

ดังนั้นก็ไม่ต้องไปดิ้นรนหาอิสรภาพที่ว่าหรอกครับ ถ้าคุณยังใช้วิธีคิดและเดินตามแนวทางของระบบทุนนิยมอยู่ ก็ลืมมันไปเถอะครับ เพราะระบบทุนอยู่ได้ด้วยเงินตัวเดียว และเงินก็เปลี่ยนแปลงไปตามอุปสงค์ของคน อุปสงค์ก็คือความอยากนั่นไง ดังนั้นต่อให้คุณมีเงินมากขนาดไหน คุณก็ต้องพะวงหันไปดูเงินในบัญชีเป็นประจำ เพราะความเคยชินในการอยากได้เงินอยู่ตลอด อย่างนี้ยังจะเป็นอิสระกันอีกไหมครับ

การมีอิสรภาพทางการเงินจะเกิดขึ้นได้จริงๆ ก็ต้องพึ่งการเกษตรครับ เพียงแต่ต้องเป็นเกษตรธรรมชาติบนพื้นฐานของหลักเศรษฐกิจพอเพียงด้วย แต่ถ้าคิดจะไปทำเกษตรเคมีเชิงเดี่ยว อย่าไปทำเลยครับ เพราะมันมีแต่ทุกข์ คิดดูก็แล้วกัน ขนาดปลูกพืชอาหารเองแต่ต้องขายออกไปเพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารกิน แบบนี้ไม่แปลกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

หรืออย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆกับปรากฏการณ์ที่ชาวเกษตรกรเชิงเดี่ยวชอบเอาผลผลิตที่ราคาตกต่ำไปเทปิดถนนประท้วงให้รัฐออกมารับซื้อผลผลิตในราคาที่ตนพอใจอยู่เป็นประจำ เพราะทุกอย่างที่ใช้ในเรือกสวนไร่นาของตนก็เป็นวัตถุดิบที่มีราคาแพงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และสารเคมีอีกจำนวนมาก เป็นไงล่ะอิสรภาพอยู่ตรงไหนชี้ให้ดูหน่อยสิครับ

เกษตรธรรมชาตินั้นเป็นการวิถีการทำเกษตรที่อาศัยการจัดระบบนิเวศน์ในพื้นที่ให้ทั้งพืชและสัตว์เกื้อกูลกันเอง โดยที่มนุษย์เขาไปทำในบางจุดเพื่อให้ได้ผลผลิตเพียงพอและวงจรนิเวศน์ได้ดำเนินไปอย่างอุดมสมบูรณ์ การทำเกษตรธรรมชาติจึงต้นทุนต่ำมาก เพราะทุกอย่างในพื้นที่ถุกหมุนเวียนใช้ประโยชน์ได้ไมรู้จบ ในขณะที่เกษตรเชิงเดี่ยวนั้นต้นทุนการผลิตอาจจะมากกว่ามูลค่าผลผลิตที่ได้ด้วยซ้ำ เพราะดันไปแบกต้นทุนของบริษัทปุ๋ย บริษัทยา และด้วยเหตุนี้เองที่เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ในระบบเชิงเดี่ยวต้องตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า หนูถีบจักร คือวิ่งหาเท่าไหร่ วิ่งหาให้ตายก็ไล่ต้นทุนของตัวเองไม่ทัน เอาแค่ผลผลิตเสียหายนิดเดียว สะดุดนิดเดียวก็เป็นหนี้ท่วมหัว ล้มละลายหมดตัวแล้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรไทยทุกวันนี้ แต่มันก็แก้กันไม่ได้เพราะไม่ยอมรับความจริงกัน

ส่วนคนเมืองนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ เป็นทาสของเงินโดยสมบูรณ์แบบชนิดไม่มีทางเลือก ถ้าไม่มีเงินก็แปลว่าอดตายสถานเดียว และถึงมีเงินขึ้นมา คุณก็จะถูกเจ้าของสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆตามจิกกัดรุมทึ้ง ใช้เล่ห์เหลี่ยมมนต์มายาการโฆษณาประชาสัมพันธ์ดึงเงินออกจากกระเป๋าคุณ ไม่ให้คุณนอนกอดเงินไว้เฉยๆ

และจากสภาพดั้งเดิมของเงินที่เคยเป็นเพียงแค่ตัวกลางในการแลกเปลี่ยน มาวันนี้เงินกลายเป็นพระเจ้า กลายเป็นโซ่ล่ามเราไปเสียแล้วครับ

ดังนั้นถ้าคุณจะมีอิสรภาพทางการเงินได้อย่างแท้จริง คุณต้องพึ่งพาตนเองทางด้านอาหารให้ได้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงการทำเกษตรธรรมชาติบนหลักเศรษฐกิจพอเพียงนั่นแหละครับ จะเป็นทางอื่นไปไม่ได้เลย

แต่แนวทางนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะครับ สำหรับใครที่สามารถลอยตัวในระบบทุนได้อย่างไม่ลำบากก็อยู่ไปเถอะ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เป็นเพียงคนตัวเล็กๆ อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ไร้ภูมิต้านทานในการแข่งขัน และถูกบีบคั้นเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายจากทุกทิศทาง การเกษตรธรรมชาติบนหลักเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นทางออกของคุณ

เกษตรธรรมชาตินั้นต้นทุนส่วนใหญ่ได้มาฟรี คือ ธรรมชาติ ดิน น้ำ อากาศ จุลินทรีย์ ส่วนปุ๋ยและอินทรีย์วัตถุนั้นต้นทุนต่ำอยู่แล้ว และส่วนใหญ่หาได้จากในพื้นที่เอง เช่น อุจาระ ปัสสาวะ เศษอาหาร เศษซากพืช ซากสัตว์ก็สามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยได้อย่างดี

ส่วนของเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆไปจนถึงอาหาร ก็ได้จากการเพาะปลูกในพื้นที่เองนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืช ไม้ไผ่ ไม้เนื้อแข็งสำหรับใช้งาน ชีวิตในระบบเกษตรธรรมชาติจริงๆนั้นไม่ต้องใช้เงินก็อยู่ได้ และสิ่งนี้เองที่จะช่วยให้เราสามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้อย่างแท้จริง เพราะการเกษตรจะให้ปัจจัยที่จำเป็นของชีวิตแก่เราได้จริง แถมยังมีคุณภาพดี ต้นทุนต่ำ ที่สำคัญคือไม่ต้องถูกบีบคั้นจากระบบทุน เพราะผลิตเองบริโภคเอง ตัดวงจนพ่อค้าคนกลางที่นับวันจะมีแต่เอาเปรียบทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคมากขึ้นทุกวันๆ เมื่อปัจจัยที่จำเป็นต่อชีวิต กลับมาอยู่ในมือเราแล้ว ปัจจัยที่เหลือก็เป็นเพียงปัจจัยที่ไม่ได้สำคัญมากอีกต่อไป คือจะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ยังไงเราก็มีข้าวกิน มีปลา มีผักผลไม้กินอยู่แล้ว ถึงตรงนี้ก็ไม่มีใครบีบคุณได้อีกต่อไปแล้วครับ นี่แหละที่ผมบอกว่าเป็นอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง

ส่วนเกษตรกรที่หันมาทำในระบบเชิงเดี่ยวนั้น เขาก็ต้องเข้ามาเกี่ยวพันกับระบบ พึ่งพาระบบ และสุดท้ายก็ถูกเอาเปรียบโดย"นักล่า"ในระบบ ถูกระบบจับเป็นตัวประกันเพราะผูกพันเข้าไปแล้ว แถมยังถูกหลอกถูกกระตุ้นด้วยค่านิยมจอมปลอมให้ต้องวิ่งๆๆๆหาเงิน เพื่อให้กิจการเจริญก้าวหน้าร่ำรวย ให้มีคุณต่าทางสังคม โดยลืมไปแล้วว่าคนหนึ่งคนกินข้าวแค่ 3 มื้อเท่านั้น

ระบบทุนนั้นมันเป็นเรื่องของปลาใหญ่กินปลาเล็กครับ ความเป็นธรรมอะไรจริงๆก็ไม่มีหรอก หรือจะพูดให้ง่ายคือรายย่อยหรือคนธรรมดาจะอยู่ยาก เพราะระบบไม่เอื้อประโยชน์ให้คนตัวเล็กๆอย่างเราสักเท่าไหร่ เพราะอะไรหรือครับ ก็เพราะตัวเลข GDP ส่วนใหญ่นั้นมาจากกิจการขนาดใหญ่เท่านั้น แล้วคิดหรือว่าภาครัฐจะสนใจรายย่อยอย่างแท้จริง ไม่มีทางครับ

ว่ากันว่ารายได้ 80% ของประเทศนั้นมาจากคนกลุ่มเล็กเพียง 20% ของประชาชนคนไทยทั้งหมด ขณะที่รายได้เพียง 20% ของทั้งหมดนั้น เป็นรายได้ของคนจำนวนมากกว่า 80% แล้วคิดดูก็แล้วกันว่าคนส่วนใหญ่จะมีอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริงได้ไหม ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่ในเมืองไทยนะครับ เป็นกันทั่วโลก เพราะคนที่คุมเกมเอาไว้จริงๆก็คือคนส่วนน้อยที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจนั่นแหละ

แล้วคิดหรือว่าเราจะชนะเกมที่เราไม่มีสิทธิ์คุมเกมอะไรเลย ไม่มีทางครับ ส่วนถ้าอยากจะฟังเรื่องราวของอิสรภาพทางการเงินจริงๆน่ะ ต้องไปฟังจากคนที่ไม่ต้องพึ่งพาเงินเป็นหลักเท่านั้น ถึงจะเข้าใจของจริง

ไม่ใช่ไปฟังจากปากหรือสื่อของหน่วยงานหรือองค์กรที่ยังแสวงหาผลกำไรอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่

มันก็บอกอยู่แล้วไงครับว่า "แสวงหาผลกำไร" แล้วเขาจะพูดความจริงกับเราไหมเล่า

2 comments:

  1. เห็นภาพเลย นึกถึงตอนเด็กอยู่บ้านนอก จะใช้เงินก็ต่อเมื่อไปติดต่อราชการกับไปหาหมอ ไปเรียนเท่านั้น ซื้อยากเท่าที่จำเป็น นอกนั้นเรื่องอาหารการกินมีเหลือเลย ... คนเมืองไม่มีเงินอยู่ไม่ได้ ...

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่แล้วครับ ชีวิตที่ต้องแบกต้นทุนทุกอย่างเป็นชีวิตที่เครียดมากๆ หาเงินก็ยาก ใช้เงินดันง่ายเพราะมีแต่คนมารุม แต่ถ้าเราฝากปากท้องเอาไว้กับแม่ธรณี แบบนี้ง่ายกว่าเยอะครับ ตัดคนกลางออก ตัดเรื่องเงินออกไป รับประกันว่าเราได้กินแน่ๆทุกมื้อ

      Delete