Monday, November 5, 2012

น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ!!!

อันนี้เป็นบทความที่ผมไปเจอมาในเฟสบุ๊คครับ อ่านแล้วน่าตกใจทีเดียว เพราะเป็นอีกกรณีหนึ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่ นำผลการวิจัยปลอมมาหลอกขายของให้กับเรา ลองอ่านดูนะครับ


คนไทยตาสว่างเสียที…เลิกเสียเงินซื้อยาฝรั่ง ต้นเหตุเพียงแค่น้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึม

อดีตเมื่อก่อน 30 ปีที่แล้ว คนไทยใช้น้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมูทำกับข้าว จู่ๆโฆษณา(แหกตา)ฝรั่ง มากล่าวโทษวิถีไทยเดิมๆ มาขี้ตู่เหวงว่าน้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมู ทำให้คลอเลสเตอรอลสูง เพราะจับตัวเป็นไข แล้วขี้ตู่เหวงว่าวิธีแก้คือ การใช้น้ำมันพืช

ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช เพราะความเชื่อผิดๆที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา แต่ปรากฏว่า อัตราการเป็นโรคต่างๆมากขึ้น ไขมันในเลือดสูง, โรค หัวใจ, โรคไต, ภูมิแพ้…เป็นต้น

วงการสุขภาพของตะวันตก เพิ่งจะมาตาสว่างเมื่อค้นพบโทษของน้ำมันพืช สหรัฐฯได้ออกมาตรการลด ละ เลิก ใช้ น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี(transfat oil)ในหลายรัฐ ท่านสามารถอ่านข่าวเหล่านี้ได้ เช่น อาร์โนลด์ ชวาชเนกเกอร์ ผู่ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กับการแบนการใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี โดยกล่าวว่า การใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ…”

รัฐ เท็กซัส…พระราชบัญญัติขจัดน้ำมันพืชแปรรูปให้หมดจากร้านอาหารภายใน สิงหาคม 2553
KFC เริ่มเห็นโทษของน้ำ มันพืชผ่านกรรมวิธี ออกเมนูไร้น้ำมันพืช Transfat
McDonald ประกาศเริ่มใช้ น้ำมันชนิดอื่น แทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเมื่อปี 2007 เริ่ม ต้น
ที่ 1,200 สาขา
Dunkin Donut ประกาศ เลิกใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีตั้งแต่ปี 2550
เว๊บไซท์ ต่อต้าน transfat http://www.bantransfats.com/
โรคที่มากับน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี…ระบบเผาผลาญอาหาร เสื่อม, เบาหวาน, ธัยรอยด์, เสื่อสมรรถภาพทางเพศ, โรคหัวใจ, โรคอ้วน, โรคไต
อาหารที่พบอยู่ทั่วไปมีน้ำมันพืชเสมอ… ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไท, หอยทอด, ราดหน้า, ผัดผักทุกชนิด, ไก่ทอด, ปาท่องโก๋, ข้าวผัด ขนมอบ เบเกอรี่…สรุปรวมว่าอาหารทุกชนิดที่ใช้กะทะ (ผัด ทอด) ใช้น้ำมันพืชทั้งนั้น
น้ำมันพืชเกือบทุกชนิด ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่ขวางระบบดูดซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้ หากใช้วัสดุอื่นตามที่โฆษณาจริง เหตุใดจึงยังขายได้ในราคาถูกเช่นนั้น

อย่าให้คำว่า ไม่เป็นไข’ มาหลอกท่านได้อีก
น้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศา จะดูสวยงาม ไม่เป็นไข ผิดกับน้ำมันหมูที่เมื่อยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเป็นไข…แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้าไปอยู่ในร่างกาย อุณหภูมิ 37 องศา จะกลายเป็นกาวเหนียว เกาะติดลำไส้ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงลำไส้ใหญ่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วย พืชผักที่เราทานเข้าไป และ ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำชาธรรมดา
แต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายจะไม่มีทางเป็นไข และ จะละลายกับน้ำได้ สารอาหารต่างๆยังซึมเข้าร่างกายได้

หากท่านลองนำน้ำมันพืชใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดสัก 10 นาที อุณภูมิจะประมาณ 30 กว่าองศา
ใกล้เคียงร่างกายมนุษย์…ท่านเช็ดน้ำมันพืชออกได้ยากมาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกะทะ เครื่องครัว เขม่า
กาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อน จำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่านั้น

แต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตากแดด…จะพบว่าล้างออกได้โดยง่าย
เมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็ว เสมือนกับท่านทานน้ำ 100% น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไป
ใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ 100% นี่คือเหตุผลว่า ทำไมท่านทานน้ำแล้วฉี่บ่อย เป็นโรคไต และ โรคกระเพาะปัสสาวะตามมา

เมื่อน้ำซึมเข้าตัว ไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน ขาดวิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มีโอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้มกันมีปัญหาเป็นภูมิแพ้ หวัด ไวรัส

เมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่นๆได้ง่ายมาก จบลงด้วยการเสียเงินซื้อยาฝรั่ง เงินทองไหลออกนอกประเทศ เพราะเพียงแค่ท่านหลงเชื่อว่าน้ำมันพืชสมัยใหม่ไม่เป็นอันตราย

น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ
- ฟอก สี (bleached) เพื่อให้สีดูสวย สดใส
- แต่งกลิ่น (deodorized) เพื่อให้ไม่มีกลิ่นหื มีกลิ่นตามที่ต้องการ
- ใส่ ไฮโดรเจน (hydrogenated)

กระบวนการเหล่านี้ทำให้สารเคมีเปลี่ยน เมื่อทานเข้าไปแล้วเป็นพิษต่อร่างกายโดยตรง เมื่อใดที่เห็นข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่า มีน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ขอให้รู้ว่านั่นคือยาพิษ โยนทิ้งขยะทันที

…Trans fats do not exist in nature. They are laboratory-designed and have adverse health consequences. They
interfere with the body’s production of beneficial fatty acids and promote heart disease. As trans fatty acids
offer no benefits and only clear adverse metabolic consequences, when you see the words partially
hydrogenated on the side of a box, consider it poisonous and throw it in the trash. (Ascherio, A., and W. C.
Willett. 1997. Health effects of trans fatty acids. Am. J. Clin. Nutr. 66 (4 supp.): 1006S–10S.)

ถึงเวลาล้างได้แล้ว
ท่านจำเป็นต้องล้างน้ำมันพืชในร่างกาย ที่สะสมมาตั้งแต่เกิดเสียที ด้วยสูตรตามธรรมชาติที่ท่านสามารถพึ่งพาตัวเองได้ มี 2 สูตร ที่ได้รับการทดสอบจากประชาชนทั่วไปมากกว่าห้าหมื่นคน และ ได้ผล สูตรที่เร็วที่สุด คือ น้ำชามะละกอ (ล้างอย่างเดียว แต่เร็ว)

วิธีทำ : มะละกอดิบที่ใช้ตำส้มตำ นำมาหั่นเป็นชิ้นเหมือนชิ้นฟัก ประมาณ 6-8 ชิ้นต่อน้ำ 2 ลิตร จะขาดจะเกิน ไม่ผิด
(ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้บูดง่าย มะละกอดิบที่เหลือ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไป) และ ใบเตย หรือ เก๊กฮวย อย่างใดอย่างนึง กะเอง ต้มในน้ำ จนเดือด พอเดือดได้ ประมาณ 1 นาที ปิดไฟทันที อย่าต้มต่อ ให้เอามะละกอ กับ ใบเตยทิ้ง(อย่า ปล่อยให้มะละกอเดือดจนเละ) แล้ว ใส่ใบชา ลงไปแช่ประมาณ 4 นาที ห้ามแช่นานกว่า 4 นาทีเพราะสารแทนนินจะออกมา ทำให้ท้องผูก แล้วตักใบชาทิ้ง จะได้น้ำชามะละกอ ดื่มร้อน หรือ เย็นได้ น้ำชาที่เหลือให้แช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้ประมาณ 2 วัน เกินกว่านั้น จะบูด (ยางมะละกอล้างไขมัน, ใบเตยให้ความสดชื่น, ชาดับกลิ่นมะละกอ)

สูตรนมสดโยเกิร์ตน้ำผึ้งมะนาว (ล้างและบำรุง ค่อยๆล้าง)
นมสด โยเกร์ต น้ำผึ้ง มะนาว : ใช้โยเกิร์ตชนิดจืดครึ่งถ้วย ผสมนมสดชนิดจืด 1 กล่อง เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา และ บีบมะนาว ลูก คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยดื่ม

คุณสมบัติ : ห้วิตามิน B บำรุงสมอง วิตามิน C เพิ่มภูมิต้านทาน, จุลินทรีย์ตัวดีช่วยย่อยน้ำ มันพืช, นมส ให้แคลเซียม

ขอให้ท่านมองดูคนป่วยรอบกายท่าน คนป่วยในสังคม แล้วถามตัวเองว่า
- คนเหล่านั้น ทานน้ำมันพืชแล้วภูมิคุ้มกันมีปัญหา ป่วย แต่ไปรักษาปลายเหตุ ใช่หรือไม่?
- คนป่วยเหล่านี้มากพอหรือยัง เงินที่คนป่วยเหล่านี้ต้องจ่ายซื้อ ยา เงินนั้นอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศ?
- เศรษฐกิจพอ เพียงจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากคนไทยยังไม่ดูแลสุขภาพตนเอง ต้องพึ่งพายาฝรั่งไปเรื่อย ?

1 comment:

  1. จริงค่ะ ปัจจุบันอรใช้น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าวค่ะ

    ReplyDelete