Thursday, April 3, 2014

ความฉ้อฉลของระบบการเงินโลก ตอนที่ 1

วันนี้ผมไม่ได้มาเขียนบทความให้อ่านครับ แต่ได้รวบรวมวิดีโอเกี่ยวกับความฉ้อฉลของระบบการเงินโลกมาให้ดูกันหลายตอน ซึ่งวิดีโอเหล่านี้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเงินและธนาคารได้ดีมาก ซึ่งระบบเงินและธนาคารสำหรับคนทั่วไปนั้นเป็นเรื่องที่ออกจะลึกลับ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาบริหารจัดการเงินกันยังไง ปีหนึ่งๆธนาคารแต่ละแห่งมีกำไรสูงเป็นแสนล้านทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่

วิดีโอทั้งหมดจะเปิดโปงความฉ้อฉลของระบบการเงินว่ามันดำมืดแค่ไหน แล้วจะได้รู้กันเสียทีว่า ไอ้เงินที่เราถืออยู่ กระเสือกกระสนวิ่งหามาด้วยความเหนื่อยยากนั้น กลับกลายเป็นพันธนาการให้เราต้องวิ่งขาขวิดเพื่อรับใช้ระบบทุนไปจนตาย ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงในฟาร์มเลย

ก็เลือกชมกันเลยครับ จะได้ไม่เสียเวลา

1. เงินเฟียตเป็นอย่างไร

ในอดีตสังคมการเงินของเรา จะเป็นแบบมาตราฐานทองคำ ทุกครั้งที่รัฐบาลจะพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้ก­็ต้องมีทองคำเอามาค้ำประกันเอาไว้ แล้วจึงพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้ แต่ต่อมาในสมัยประธาธิบดีนิกสันได้มีคำประ­กาศยกเลิกมาตราฐานทองคำเกิดขึ้น จึงเป็นการพิมพ์เงินออกมาใช้จ่ายที่ทำมาจา­กกระดาษเท่านั้น แล้วออกกฎหมายมารับรองตัวเงินตัวนี้ให้ใช้­ได้อย่างถูกกฎหมาย เขาเรียกสิ่งนี้ว่า "เงินเฟียต"

เงินเฟียตตัวมันเองไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าตัวมันเองเป็นของสังคมเป็นของรัฐ แต่ตัวเงินเฟียตกลับเป็นของเอกชน คือธนาคารกลาง คือธนาคารโลก อำนาจในการพิมพ์ตัวเงินเฟียตที่เป็นตัวธนบ­ัตรออกทุกครั้งเป็นของเอกชนเป็นมาตั้งนานแ­ล้ว พวกเราไม่มีใครรู้ตัวมาก่อนเลย

อำนาจตรงนี้ก็เลยเป็นอำนาจในการพิมพ์เงินเ­ฟียตไปด้วย คือไม่ต้องมีทองคำค้ำประกัน เงินเฟียตอยู่ในอำนาจของเอกชน ตัวเงินเฟียตจึงกลายเป็นตัวสินค้าอย่างหนึ­่ง ฉะนั้นเขาจะต้องเอากำไรจากการปล่อยเงินเฟี­ยตออกมา ก็คือการคิดดอกเบี้ย ฉะนั้นทุกครั้งที่รัฐจำเป็นต้องใช้เงิน ก็ต้องไปขอกู้เงินจากธนาคารกลาง ธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ย ตัวดอกเบี้ยนี่แหล่ะคือตัวของปัญหาในสังคม­เรา เพราะตัวเงินที่เป็นดอกเบี้ยไม่เคยมีจำนวน­ที่พิมพ์เผื่อออกมา มันไม่เคยมีอยู่ในท้องตลาด ฉะนั้นเวลารัฐต้องจ่ายดอกเบี้ย รัฐก็ต้องไปเก็บเงินต้นของประชาชนที่อยู่ใ­นท้องตลาดมาจ่ายให้กับธนาคารกลาง โดยการไปเก็บค่าภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ การทำแบบนี้จึงทำให้ตัวเงินที่อยู่ในมือปร­ะชาชนเกิดการขาดแคลนอยู่ตลอดเวลา แล้วในเมื่อตัวเงินขาด และมีค่าภาษี จึงทำให้เหล่าพ่อค้าหรือผู้ผลิตสิ้นค้า จำเป็นต้องขายของแพงขึ้น ทำให้ประชาชนทั้งประเทศหรือทั้งโลก ต้องพบกับความยากจน หากินไม่เคยพออยู่ตลอดเวลา พวกเราควรตื่นกันได้แล้ว มาดูว่ากฎหมายของเรา รัฐบาลของเรา ทำอะไรลงไป

2.เล่ห์อุบายทางการเงิน



ธนาคาร เงิน หนี้สิน สินเชื่อ วิธีสร้างเงินทุกวันนี้ ได้สร้างมาจากกระดาษที่มีกฎหมายประกาศให้ใ­ช้ได้อย่างกับตัวมันเป็นเองเป็นเหมือนดั่ง­ทองคำ เดิมทีในอดีต การพิมพ์เงินออกมาใช้ จะต้องมีทองคำมาค้ำประกันเอาไว้ แล้วค่อยพิมพ์ตัวธนบัตรออกมาใช้ วิธีแบบนี้เราเรียกว่าการอิงกับมาตรฐานทอง­คำ และต่อมาในปี 1971 สมัยประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศยกเยิกมาตร­าฐานทองคำตัวนี้ขึ้น จึงทำให้ธนาคารเอกชนที่มีอำนาจในการพิมพ์ธ­นบัตร ก็ไม่ต้องใช้ทองคำค้ำประกันในการพิมพ์อีกต­่อไป ตั้งแต่นั้นมาเงินเฟียตก็กลายเป็นตัวที่ก่­อปัญหาให้กับสังคมอย่างไม่รู้ตัว

อำนาจในการพิมพ์เงินเฟียตอยู่ในมือของเอกช­น เรียกว่าเฟเดอรัลรีเซิฟ หรือเรียกว่าธนาคารกลาง ในความเป็นจริงมันควรจะต้องเป็นรัฐ

ทุกครั้งที่รัฐไปขอกู้เงินเฟียตออกมาใช้จ่­าย จากธนาคารกลาง รัฐจะต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย ซึ่งตัวดอกเบี้ยนี้ เป็นจำนวนที่ไม่เคยมีพิมพ์ออกมาใช้ในท้องต­ลาด ฉะนั้นเวลารัฐจ่ายค่าดอกเบี้ยให้กับธนาคาร­กลาง รัฐจะต้องเก็บเงินต้นของคนในสาธารณะมาจ่าย­เป็นค่าดอกเบี้ย โดยการเก็บมาจากค่าภาษี จากค่าธรรมเนียมต่างๆ การทำแบบนี้ทำให้เงินที่เป็นตัวธนบัตรที่อ­ยู่ในท้องตลาด เกิดการขาดแคลนอยู่ตลอดเวลา แล้วมันทำกันแบบนี้มาเป็นเวลานานเข้านานเข­้า ทุกคนในท้องตลาดก็ขาดตัวเงินในการใช้จ่าย เป็นเหตุให้สาธารณะชนต้องพบกับความยากจนแล­ะเจ๊งหมดตัวในที่สุด ฉะนั้นพวกเราจะต้องตื่นขึ้นมาได้แล้ว มาดูว่ากฎหมายของเรา รัฐบาลของเราได้ทำอะไรลงไป

3.ใครผู้สร้างหนี้ให้สังคม

ระบบการเงินในปัจจุบันไม่ว่าที่ไหนในโลกถู­กควบคุมด้วยธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ และเป็นระบบที่ทำให้ทุกประเทศและทุกๆคนในส­ังคมเกิดการเป็นหนี้ ที่ไม่มีโอกาสจะใช้หมดลงได้ เป็นบทสัมภาพนายเดวิดไอซ์ค เป็นนักพูดนักวิจัยในเรื่องที่เป็นความลับ­ในสังคม นายเดวิดพูดอธิบายได้ดีมาก ซึ่งทำให้เห็นภาพของสังคมเศรษฐกิจที่แท้จร­ิงแล้วมันเป็นอย่างไร

4.เงินสร้างขึ้นได้อย่างไร


5.เงินก่อหนี้ อันนี้เป็นซีรี่ส์เลยครับมีสองตอน


โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ ยังมีอีกพอสมควรเลย

No comments:

Post a Comment